จุดจบที่สับสนของ ชูเอา เฟลิกซ์ จากดาวรุ่งผู้ถูกขนานนามว่า “อนาคตของโปรตุเกส” สู่การย้ายไปซาอุฯ ในวัยเพียง 25 ปี

หนึ่งในเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลที่ชวนให้ตั้งคำถามมากที่สุดในยุคนี้ กำลังจะก้าวสู่บทใหม่อีกครั้ง เมื่อ ชูเอา เฟลิกซ์ เตรียมย้ายไปเล่นให้กับ อัล-นาสร์ สโมสรในซาอุดีอาระเบีย หลังจากไม่อาจเค้นฟอร์มระดับโลกที่หลายคนคาดหวังจากเขาได้เลยนับตั้งแต่ออกจาก เบนฟิก้า ในปี 2019
เฟลิกซ์ เคยเป็นเจ้าของค่าตัวมหาศาลถึง 113 ล้านปอนด์ เมื่อย้ายจากเบนฟิก้าไปแอตเลติโก มาดริด ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่ผลงานในสนามกลับสวนทางกับความคาดหวังอย่างสิ้นเชิง
ดาวรุ่งที่โลกจับตามอง
ชูเอา เฟลิกซ์ แจ้งเกิดอย่างยิ่งใหญ่กับเบนฟิก้าในฤดูกาล 2018-19 ยิงไป 20 ประตูจาก 43 นัด พาทีมคว้าแชมป์ลีกโปรตุเกส และคว้ารางวัล Golden Boy ซึ่งมอบให้กับนักเตะอายุต่ำกว่า 21 ปีที่โดดเด่นที่สุดในยุโรป
ในเวลานั้น เขาได้รับการยกย่องว่าเป็น “ศิลปะบนสนามหญ้า” และถูกคาดหมายว่าจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งจาก คริสเตียโน โรนัลโด้ ทั้งในทีมชาติโปรตุเกสและเวทีโลก
ความผิดพลาดแรก – เข้าระบบผิดที่ผิดทาง
แต่การย้ายไปแอตเลติโก มาดริด กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความถดถอย
ภายใต้การคุมทีมของ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ซึ่งเน้นแท็กติกเกมรับและการเล่นที่มีวินัย เฟลิกซ์ไม่สามารถปรับตัวได้ เขาถูกวิจารณ์ว่าไม่มีความกระตือรือร้นด้านเกมรับ และไม่ทำตามคำสั่งของโค้ช หลายครั้งถูกดรอปและสลับไปนั่งสำรอง
แม้จะมีช่วงที่โชว์ฟอร์มดี เช่น ฤดูกาล 2021-22 ที่คว้ารางวัลนักเตะแห่งปีของสโมสร แต่โดยรวมเขายิงได้เพียง 35 ประตูจาก 131 นัด ใน 3 ปีครึ่ง และไม่เคยยิงเกิน 10 ประตูในฤดูกาลใด
ล้มเหลวซ้ำซ้อนกับเชลซี, บาร์เซโลน่า และมิลาน
การย้ายแบบยืมตัวไปยัง เชลซี และ บาร์เซโลน่า ไม่สามารถเปลี่ยนชะตาได้ โดยที่เชลซี เขาโดนใบแดงตั้งแต่นัดแรก และยิงได้เพียง 4 ประตูจาก 20 นัด ส่วนที่บาร์ซ่า แม้จะยิงได้ 10 ลูก (รวมสองลูกใส่แอตเลติโก ต้นสังกัดจริง) แต่ก็ไม่ดีพอที่จะทำให้สโมสรยื่นซื้อขาด
ฤดูกาลล่าสุด เขากลับมาเชลซีแบบถาวรในดีลมูลค่า 45 ล้านปอนด์ ที่เกิดขึ้นเพราะเหตุผลด้านการเงินของทั้งสองสโมสร ไม่ใช่เพราะแผนการของทีม แม้จะยิงได้ 7 ประตู แต่ส่วนใหญ่มาจากเกมถ้วยกับทีมรองบ่อน เช่น โมรีแคมบ์ และพานาธิไนกอส
จากนั้นถูกปล่อยยืมไป เอซี มิลาน แต่ก็ยิงได้แค่ 3 ประตูใน 21 นัด และมีประเด็นดราม่ากับ ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่พูดกับเขาว่า “ไม่มีใครที่นี่เป็นเมสซีนะ” ระหว่างเดินกลับห้องแต่งตัว
โอกาสกลับบ้าน... ที่ไม่เกิดขึ้น
ช่วงซัมเมอร์นี้ เฟลิกซ์เปิดเผยว่าอยากกลับไปเบนฟิก้า และมีข่าวว่าต้องยอมลดค่าเหนื่อยเพื่อให้ดีลเกิดขึ้น แต่สุดท้ายเขาเลือกที่จะไป อัล-นาสร์ แทน ซึ่งสร้างความผิดหวังให้แฟนบอลโปรตุเกสจำนวนมาก
ที่นั่น เขาจะได้ร่วมงานกับ คริสเตียโน โรนัลโด้ และอดีตกุนซือที่เคยปั้นเขากับเบนฟิก้า จอร์จ เชซุส
คำวิจารณ์ และบทสรุป
นักข่าวสายฟุตบอลสเปน กีเยม บาลาเก วิเคราะห์ว่า ปัญหาของเฟลิกซ์คือเรื่อง “ทัศนคติ” ไม่ใช่พรสวรรค์ เขาไม่ฟังโค้ช ไม่ทำงานหนัก และไม่ยอมปรับตัวให้เข้ากับสไตล์ฟุตบอลสมัยใหม่
ขณะที่นักข่าวจากโปรตุเกส มาร์คัส อัลเวส เสริมว่า “ตอนเปิดตัวกับแอตเลติโก มีทีวีถ่ายทอดสดถึง 6 ช่อง แต่ตอนนี้เขากลายเป็นแค่ประเด็นย่อย 5 นาทีในรายการข่าวซื้อขายนักเตะ”
แม้จะมีดีกรีแชมป์ลาลีกา และคว้าแชมป์ Nations League 2 สมัยกับทีมชาติโปรตุเกส แต่สำหรับแฟนบอลที่เคยเห็นฟอร์มเทพช่วง 6 เดือนสุดท้ายกับเบนฟิก้า มันน่าหดหู่ใจที่ต้องเห็นเขาเลือกเดินเส้นทางแบบนี้ในวัยเพียง 25 ปี
“ความรู้สึกของแฟนบอลตอนนี้คือ – 6 เดือนนั้นที่เบนฟิก้าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพของชูเอา เฟลิกซ์... และนั่นคือเรื่องที่น่าเศร้าที่สุด” – มาร์คัส อัลเวส กล่าวสรุป

